มะเขือยาว ช่วยหุ่นฟิต ฟื้นฟูหัวใจ มะเขือยาวเมื่อสุกจะมีรสหวานกว่ามะเขือชนิดอื่น จึงเป็นที่นิยมทั้งเมนูผัด แกงเผ็ด หรือกินผลสดแกล้มน้ำพริก แม้ดูเผินๆ จะเป็นอาหารธรรมดา แต่หากรู้ลึกถึงสรรพคุณ หลายคนอาจต้องประหลาดใจ หุ่นสวยด้วยมะเขือยาว มะเขือยาวคืออาหารลดน้ำหนักชั้นดี หากอยากมีหุ่นสวยจึงไม่ควรพลาด เพราะให้ทั้งพลังงาน คาร์โบไฮเดรต และไขมันต่ำ ขณะเดียวกันก็อุดมไปด้วยสารพัดสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดงและธาตุเหล็ก กระทรวงเกษตร ประเทศสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture) ระบุว่า มะเขือยาว 1 ถ้วย หนัก 71 กรัม ให้พลังงานเพียง 18 กิโลแคลอรี และมีคาร์โบไฮเดรตเพียง 4 กรัม ไม่เพียงเท่านี้ The Institute of Biology of São Paulo State University ประเทศบราซิล ยังพบว่า น้ำคั้นจากมะเขือยาวมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนักและขจัดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย ฉะนั้น อาหารที่หลายคนคุ้นเคย เช่น มะเขือยาวผัดเต้าหู้ มะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว ยำมะเขือยาว ตำมะเขือยาว จึงเหมาะรวมอยู่ในเมนูอาหารลดน้ำหนักอย่างไม่ต้องสงสัย กินทั้งเปลือก ต้านมะเร็งลุกลาม Scientific Journal ระบุว่า นาซูนิน (Nasunin) ในผิวของมะเขือยาว มีคุณสมบัติต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งสร้างเส้นเลือด (Antiangiogenic) ที่จะลำเลียงอาหารไปเลี้ยงเซลล์ มีผลให้เซลล์มะเร็งเติบโตช้าและแพร่กระจายลดลง กินสดหรือสุก ก็ช่วยฟื้นหัวใจ ศูนย์วิจัยโรคหัวใจและหลอดเลือด มหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต (University of Connecticut ) วิทยาเขต ฟาร์มิงตัน (Farmington) ประเทศสหรัฐอเมริกา ศึกษาพบว่า กินมะเขือยาวเป็นประจำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและลดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายภายหลังหัวใจขาดเลือดได้ นักวิทยาศาสตร์แบ่งสัตว์ทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้กินมะเขือยาวสด อีกกลุ่มกินมะเขือยาวสุกต่อเนื่องนาน 1 เดือน หลังจากนั้นจึงทำให้หัวใจของสัตว์ทดลองขาดเลือดนาน 30 นาทีก่อนส่งเลือดกลับเข้าสู่หัวใจอีกครั้ง หลังตรวจสอบความเสียหายและประเมินการทำงานของหัวใจ พบว่า การกินมะเขือยาวทั้งสดและสุกเป็นประจำ มีผลช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจและลดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายภายหลังหัวใจขาดเลือดได้

8 Folk Remedies 8 Folk Remedies แอปเปิ้ลไซเดอร์บำบัดโรค เรารู้ประโยชน์มากมายของแอปเปิ้ลไซเดอร์ แต่วิธีใช้ หรือสูตรบำบัดอาการต่างๆ ที่ว่ากันว่าได้ผลนั้น เราอาจยังไม่กระจ่างนัก ล่าสุด นิตยสาร Reader Digest สหรัฐอเมริกา ฉบับเดือนตุลาคมนำ 8 วิธีเก่าแก่ ที่ชาวยุโรปและอเมริกานำแอปเปิ้ลไซเดอร์ไปใช้แก้อาการต่างๆ มาบอกกัน เราจึงไม่รอช้า นำมาบอกผู้อ่านชีวจิตด้วย 1. บำบัดท้องเสีย ให้จิบแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำสุกเย็นเจือจางทั้งวัน เพราะแอนตี้ไบโอติกในแอปเปิ้ลไซเดอร์จะช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้ได้ 2. บำบัดอาการสะอึก กินแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชา เพราะรสเปรี้ยวจี๊ดถึงใจของแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยหยุดอาการได้ 3. บำบัดอาการอาหารอาหารไม่ย่อย ให้ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์และน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น 1 แก้วดื่มก่อนอาหาร 30 นาที 4. บำบัดอาการไซนัส ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น 1 แก้ว ดื่มเพื่อให้จมูกโล่ง 5. บำบัดอาการเจ็บคอ ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ ¼ แก้ว ลงในน้ำอุ่น ¼ แก้วเท่ากัน กลั้วคอ เพื่อให้กรดในแอปเปิ้ลไซเดอร์ฆ่าเชื้อในลำคอ 6. บำบัดอาการอ่อนเพลียหลังออกกำลังกาย ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชาในแก้วน้ำผลไม้หรือน้ำเปล่าเย็นๆเพราะโปแตสเซียมและเอนไซม์ในแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยแก้ความอ่อนเพลียได้ชะงัด 7. แก้ตะคริวขณะหลับ หากมีอาการนี้ให้ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะและน้ำผึ้งเล็กน้อย ลงในน้ำดื่ม 1 แก้ว จะช่วยหยุดอาการได้ 8. ช่วยฟันขาว กลั้วปากด้วยแอปเปิ้ลไซเดอร์ทุกเช้า เพื่อช่วยล้างคราบบนฟันและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จากนั้นแปรงฟันตามปกติ

The Best For the Better คริส – ศิริน หอวัง ปักษ์นี้ ชีวจิต ได้รับเกียรติจากนางเอกร้อยล้าน มากความสามารถ มาเป็นแบบปกให้ หลายคนรู้จักเธอในบทบาทแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นางแบบ ดีเจ หรือพิธีกร ส่วนผลงานที่กำลังจ่อคิวฉายบนจอเงิน อย่างเรื่อง “โอ้มายโกส คุณผีช่วย” “คริส-ศิริน หอวัง” ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง รูปร่างดี บวกกับรอยยิ้มสดใสสะดุดตา ทำให้เธอทำงานหนัก แต่ทำอย่างไรกัน สุขภาพจึงสมบูรณ์แข็งแรงตลอดเวลา...เธอจะมาเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้ฟัง Workout for fit ตอนสมัยเด็ก ๆ คริส ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากเท่าไหร่ กิน เที่ยว เล่น ตามประสาวัยรุ่นทั่วไป เพิ่งมารู้ว่าควรออกกำลังกายและใส่ใจกับร่างกายจริง ๆ จัง ๆ เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วนี้เอง แต่โชคดีที่ คริส คลั่งไคล้การเต้นมาก (ลากเสียงยาว) ชอบมาตั้งแต่ยังเด็ก เป็นสิ่งที่เรารักและเราสนใจ จนกลายเป็นครูสอนเต้นรำ มีประโยชน์ต่อรูปร่างของเราโดยไม่รู้ตัว ช่วงหลัง ๆ ประมาณ 6 เดือนมานี้ คริสงานยุ่งมาก ๆ ไม่ได้สอนเต้นรำ แต่ไม่ได้เปลี่ยนไปสนใจอย่างอื่น คริส เลือกที่จะว่ายน้ำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 20 นาที เพราะมันดีต่อสุขภาพ การว่ายน้ำทำให้เราใช้กล้ามเนื้อแทบทุกส่วนของร่างกาย เป็นการฟิตแอนด์เฟิร์มไปในตัว แถมไม่ร้อนด้วย ความจริงเหงื่อมันก็ออกแหละ แต่เราไม่รู้ตัว (หัวเราะ) เหตุที่เลือกว่ายน้ำ คือความสะดวกและความเหมาะสม เพราะการทำงานของคริส ไม่มีเวลาว่างแน่นอนเหมือนทั่วไป อีกทั้งการเดินทางฝ่ารถติด เพื่อไปออกกำลังกาย ก็คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่ พอดีที่บ้านของคริสมีสระว่ายน้ำ จึงสามารถใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ และไม่จำกัดเรื่องเวลา Eating for energy คริสเป็นคนไม่เรื่องมากในเรื่องอาหาร ยกเว้นเนื้อสัตว์ใหญ่ ที่เหลือกินได้เกือบทุกอย่าง แต่ไม่ใช่กินแบบไม่อั้น เราต้องรู้ตัวเองอยู่เสมอว่า กินมากน้อยเพียงใด การกินเป็นการรับพลังงานเข้ามาสู่ร่างกาย ยิ่งกินมากก็เท่ากับมีพลังงานในร่างกายมาก ถ้าหากใช้ไม่หมด ก็จะเหลือตกค้างในร่างกาย นาน ๆ เข้า ความอ้วนถามหาแน่นอน ดังนั้น เราจึงควรกิน เท่าที่ได้ใช้พลังงาน วิธีการดูแลสุขภาพของคริส ยังสอดคล้องกับ คำแนะนำของอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับ เรื่องการดูแลร่างกายให้ดูอ่อนวัยอยู่ตลอดเวลา ในหนังสือชีวจิต การใช้ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ ว่า “พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้วต้องทำตัวด้วย คือ การพักผ่อน การออกกำลังกาย และไม่ให้เครียดเกินไป” อีกด้วย

Super Vitamins กินแก้โรคเล็บ อะไรคืออวัยวะที่ “อาภัพ” ที่สุดของคนเรา เฉลย... ส่วนของร่างกายที่ “อาภัพ”ที่สุด ก็คือ “เท้า” เราใช้เขามากที่สุด เขาต้องทำงานให้เราโดยต้องออกแรงมากที่สุด ถ้าไม่มีเขา เราก็ไปไหนไม่ได้ ชีวิตประจำวันก็ต้องสิ้นสุดลงตรงที่กลายเป็นผู้พิการ เพราะไม่มีเขา เราก็อยู่ไม่ได้ แต่อาภัพอย่างไร รู้ไหมครับ เราไม่เคยเอาใจใส่เขาเลย ไม่เคยดูทุกข์สุข ไม่เคยรู้ว่า บางครั้งและหลายครั้ง เขาต้องอยู่อย่างเจ็บปวดและทรมาน เอาละครับ ขออนุญาตพูดถึงสาเหตุต่างๆ หรือว่าที่จริงพูดถึงโรคต่างๆ ซึ่งจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม สามารถทำให้เกิดความผิดปกติของ “เท้า” ผู้อาภัพ ของคุณได้ โรคที่อยากจะเอ่ยถึงก็คือ “เบาหวาน” โรคเบาหวานสามารถทำให้เกิดอาการอย่างร้ายแรงเกี่ยวกับนิ้วเท้า จนกระทั่งอาจจะเกิดอาการหนักหนาจนต้องถูกตัดนิ้วเท้าได้ ฉะนั้น ขอพูดถึงความผิดปกติของนิ้วเท้า เพราะ “เบาหวาน” ถ้าต้นเหตุเกิดจากเบาหวาน ก่อนจะแก้ปัญหาเกี่ยวแก่นิ้วเท้า ต้องแก้ต้นเหตุ คือ เบาหวานให้ได้เสียก่อน โรคเบาหวานซึ่งจะมีอาการแทรกต่างๆ หลายอาการ และอาการอย่างหนึ่งของเบาหวาน ซึ่งจะเกี่ยวกับนิ้วเท้าผู้อาภัพโดยตรงก็คือ “มือชาเท้าชา” ถ้าควบคุมเรื่องน้ำตาลสูงจนผิดปกติของเบาหวานได้ อาการมือชา เท้าชาจะหายไปหรือค่อยยังชั่วขึ้น แต่ถ้ายังไม่ค่อยยังชั่ว 1. วิธีแก้นิ้วเท้าชาจากเบาหวานทำได้ดังนี้ 1.1 ให้กินวิตามินซี ขนาด 1,000 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า-เย็นทุกวัน จนอาการชาหายไป (ส่วนมากอาการจะดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์) 1.2 กินพืชและผักประเภทเป็นหัว เช่น แครอต ข้าวโพด มันฝรั่ง มันเทศบ่อยๆ และมากกว่าที่เคยกินเป็นปกติ ถ้ากินผลไม้ ให้กินทั้งเปลือก ประเภทเปลือกบางๆ เช่น องุ่น มะปราง 1.3 แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำเกลือทุกวัน ในขณะที่แช่ให้นวดเท้า ฝ่าเท้า โดยเฉพาะฝ่าเท้าให้มากๆ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวแก่เล็บที่อยากพูดถึงคือ….

Go Green ป้องกันมะเร็ง ถวายพ่อหลวง ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงงานหนักเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยให้อยู่ดีกินดี สิ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ การพัฒนาปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต นั่นคือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งดิน น้ำ ป่าไม้ เพราะทรงตระหนักว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของประชาชน มะเร็งกับสิ่งแวดล้อม เมื่อมนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้สมดุลธรรมชาติเสียไป มนุษย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติก็ย่อมได้รับผลกระทบด้วย จึงเกิดโรคภัยต่างๆมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มะเร็ง ซึ่งในปัจจุบันมีอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้นทุกที อันเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ โดยเฉพาะการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม การกินอาหารที่ไม่มีคุณภาพ ศาสตราจารย์ เกียรติคุณนายแพทย์ เฉลียว ปิยะชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานมูลนิธิต่อต้านโรคมะเร็งภาคเหนือกล่าวว่า “มะเร็งเกิดจากพฤติกรรมในการดำรงชีวิตมากกว่าพันธุกรรม การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษสูง และกินอาหารปรุงแต่งมากๆ เป็นพื้นฐานให้เกิดความไม่สมดุลในร่างกาย เป็นต้นเหตุของโรคแทบทุกชนิดรวมทั้งมะเร็งด้วย” คุณหมอเฉลียวได้อธิบายเพิ่มเติมว่า กิจกรรมต่างๆของมนุษย์ ทำให้เกิดมลพิษในอากาศ เช่น การใช้สารเคมีในภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร การเผาป่า เผาขยะ โดยเฉพาะขยะพลาสติก หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสารเคมีปนเปื้อน และการเผาไหม้เครื่องยนต์ดีเซล หรือถ่านหิน มลพิษในอากาศเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็ง นอกจากมลพิษในอากาศแล้ว คุณหมอเฉลียวยังอธิบายถึงสาเหตุของการเกิดมะเร็งว่า อาจเกิดจากการกินอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อนในปริมาณมาก ทั้งจากบรรจุภัณฑ์พลาสติก หรือสารเคมีที่ใส่ในอาหาร เช่น ฟอร์มาลิน ดินประสิว (กลุ่มโซเดียมไนไตรต์) ผงชูรส น้ำตาลเทียม (เช่น แอสปาร์เทม แซ็กคาริน) สีสังเคราะห์บางตัว และสารกันบูด รวมถึงการกินอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสี เช่น แป้งขัดขาว ข้าวขัดขาว อาหารประเภทไขมัน โปรตีนจากสัตว์ ที่มีแคลอรี่สูงแต่มีใยอาหารต่ำ ในปริมาณมากๆ ยังเพิ่มปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งได้เช่นกัน เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดี และสุขภาพอนามัยดีของทุกคน ชีวจิตจึงขอชวนผู้อ่านทุกท่านมาช่วยกันลดการใช้ทรัพยากรและประหยัดพลังงาน เพื่อลดมลพิษในสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งถวายพ่อหลวงด้วยวิธีง่ายๆ 4 วิธีค่ะ